หลายท่านอาจเคยสงสัยว่าจุดเริ่มต้นของโซล่าเซลล์ (Solar cell) ที่เราใช้กันในทุกวันนี้เกิดจากการนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับรอยต่อพี-เอ็นไปใช้งานเกี่ยวกับการอวกาศในอดีต ซึ่งประสบผลสำเร็จและถูกพัฒนาจนมาเป็นโซล่าเซลล์ (Solar cell) ในยุคปัจจุบัน
มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในนิตยสารพลังงานทดแทนโดยทีมจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมิชิแกนคำนวณค่าใช้จ่ายของการเผาไหม้ถ่านหินในแง่ของการใช้ชีวิตของมนุษย์พร้อมกับผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงอาทิตย์
การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้มีการออกแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities-Clean Energy) โดยอยู่ภายในใต้ชื่อ "EGAT Eco Plus+ เมืองนิเวศแห่งความสุข" โดยมีแผนการก่อสร้างที่ สำนักงานใหญ่ กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พื้นที่กว่า 300 ไร่ โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
บริษัทเค.จี.เอนเนอร์จี จำกัด ได้มอบโซล่าร์เซลล์ให้กับวิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง จังหวัดนครพนม เพื่อเป็นการใช้งานภายในอาคารฝึกฝีมือช่างกลโรงงานอีกทั้งยังเป็นสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับโซล่าร์เซลล์ให้กับน้องๆนักศึกษาในวิทยาลัย ซึ่งมีหลักสูตรเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้านโซล่าร์เซลล์
โรงไฟฟ้าแห่งเดียวของไทยที่ติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ถึง 4 ชนิดในพื้นที่เดียวกัน มีขนาดกำลังผลิตรวม 5 เมกะวัตต์โดยชนิดของเซลล์แสงอาทิตย์เป็นประเภทที่ผลิตจากสารกึ่งตัวนำประเภทซิลิคอน
เทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าพัฒนารวดเร็วทำให้ผู้ประกอบการหันไปผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซล่าร์รูฟท็อป)มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตไฟใช้เอง หรือ Isolated Power Supply (IPS) ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกลุ่ม IPS ผลิตไฟฟ้าแล้ว 83 เมกะวัตต์
ประเทศในแอฟริกามีการเข้าถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าในระดับที่ต่ำ มีเพียง 2 ใน 5 เท่านั้นที่มีไฟฟ้าใช้ เพราะว่าโครงสร้างพื้นฐานยังมีความเสถียรไม่เพียงพอ ไฟตกบ่อย และราคาค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงมาก
ประเทศจีนต้องการที่จะก้าวเข้าสู่ผู้นำทางด้านพลังงานทดแทน ได้มีการเปิดตัวโครงการโซล่าฟาร์มลอยน้ำโดยมีขนาดถึง 40 MWp ซึ่งก้าวเข้าสู่การเป็นโซล่าฟาร์มลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
วันที่ 21 พฤษภาคม 2560 บริษัทเค.จี เอนเนอร์จี จำกัด ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการดีดีร่วมกับศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร จังหวัดสุรินทร์ โดยได้มีการไปติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ทั้งสิ้น 10 กิโลวัตต์ที่โรงสีข้าวภายในโครงการ
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ประทานชื่อแก่โครงการพิเศษจ.สุรินทร์ ว่า "ซแรย์ อทิตยา" ซแรย์ ภาษาเขมรแปลว่า นา (นา อทิตยา) เพราะทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีรายได้จากการทำนาเพียงอย่างเดียว การที่เกษตรกรทำนาเพียงอย่างเดียว และมีความเสี่ยงสูงต่อสภาพภูมิอากาศที่ไม่แน่นอน จะทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว
