รัฐกรณาฏกะ (Karnataka) กลายเป็นผู้นำด้านการใช้พลังงานทดแทนของอินเดีย
รัฐกรณาฏกะ (Karnataka) เป็นรัฐตอนใต้ของประเทศอินเดีย ตอนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน โดยหนึ่งปีที่ผ่านมารัฐกรณาฏกะ (Karnataka) ได้เอาชนะ รัฐทมิฬนาฑู (Tamil Nadu) และก้าวขี้นมาเป็นผู้ผลิตพลังงานทดแทนรายใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดีย ด้วยกำลังการผลิตกว่า 12.3 กิกะวัตต์ (GW หรือ 1,200 เมกะวัตต์) โดยมีสัดส่วนเป็น 5 GW ของพลังงานแสงอาทิตย์ 4.7 GW ของพลังงานลม และประมาณ 2.6 GW ของพลังงานทดแทนอื่น ๆ เช่น พลังงานน้ำขนาดเล็ก, พลังงานชีวมวล, พลังงานความร้อน และพลังงานร่วม ในการเปรียบเทียบกำลังการผลิตถ่านหินของรัฐอยู่ที่ประมาณ 9.8 GW
เมื่อปี 2013 เมืองบังคาลอร์ (Bengaluru) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐกรณาฏกะ (Karnataka) มีขณะนั้นเป็นศูนย์กลางทางด้านเทคโนโลยีของอินเดีย มีกำลังการผลิตถ่านหินถึง 6.8 GW ซึ่งมากกว่าพลังงานสะอาดถึง 4 GW และสิ่งที่เป็นแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้ในการผสมผสานไฟฟ้าของรัฐ คือราคาถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้น และประกอบกับนโยบายนวัตกรรมใหม่ ๆ ของรัฐบาล
ในช่วงปีที่ผ่านมาพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มราคาถูกกว่าพลังงานความร้อนในประเทศอินเดีย ในขณะที่ภาคส่วนพลังงานความร้อนอยู่ในภาวะที่ตึงเครียด เพราะอัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นมีผลมาจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นและยังขาดแคลนถ่านหินอีกด้วย
ทั้งนี้ส่งผลให้ภาคส่วนพลังงานของประเทศจึงมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนจากการใช้พลังงานถ่านหิน เป็นระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานทดแทนอื่นๆ ในเวลาที่รวดเร็ว รัฐกรณาฏกะ ได้ออกนโยบายหลายอย่างเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่นำร่องเทคโนโลยีใหม่ๆ
สวนอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในตำบลปาวากาด้า (Pavagada) กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในรัฐซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2 GW โดยจะทำให้มันเป็นสถานที่ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
และสิ่งที่น่าภูมิใจคือประเทศอินเดียมีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนแซงประเทศระดับโลกอย่างเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ จากการสนับสนุนทุกภาคส่วนนั้นก็มีผลทำให้อินเดียประสบความสำเร็จในด้านพลังงานทดแทน
อ้างอิง
https://www.weforum.org/agenda/2018/07/costly-coal-has-pushed-karnataka-to-become-india-s-renewables-leader
